Text-Symbol 35

สิงหาคม 28, 2014

ประโยคสัญลักษณ์ (Text-Symbol) โดย โรงน้ำชา (20-8-2557)
ประโยคสัญลักษณ์ที่ 35 – ไอ้ตัวร้าย

     วินาทีมฤตยูเคลื่อนคลานผ่านไปอย่างเชื่องช้าน่าอึดอัด
     เขาเฝ้ารอคอยมันด้วยใจจดจ่อ
     มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดและน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพบเห็น
     และแน่นอน…มันไม่ได้มาที่นี่ด้วยเจตนาที่ดี!
     ยอดมนุษย์อย่างเขามีหน้าที่ต้องกำจัดมันให้ราบคาบ
     เขาแอบทำหน้าที่ยอดมนุษย์โดยไม่มีมนุษย์ธรรมดาที่ไหน
ระแคะระคายล่วงรู้แบบนี้มานานแล้ว เหตุจากความผิดพลาด
ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ครั้งหนึ่ง เปลี่ยนตัวเขาให้กลาย
เป็นคนที่มีทักษะและไหวพริบพร้อมพลังพิเศษในการต่อสู้แบบ
ครึ่งคนครึ่งสัตว์
     นับตั้งแต่วันนั้น เขากลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ผู้คอยพิทักษ์
ความปลอดภัย ผดุงคุณธรรม ให้แก่มวลมนุษยชาติ
     ตอนนี้ ในสถานการณ์ที่กำลังกดดันสุดขีด เพียงอึดใจต่อมา
ที่เขาเฝ้าคอยพร้อมเม็ดเหงื่อเม็ดที่ร้อยกว่าที่ผุดพรายไหลเลื้อย
ลงมาจากรูขุมขนบนใบหน้า
     ส่วนหนึ่งของร่างกายมันก็โผล่แพลมออกมาให้เห็น
เต็ม 2 ตา!
     มันซ่อนตัวอำพรางกายอยู่หลังโขดหินกลุ่มนั้นที่ห่าง
เขาไปไม่ไกลนัก!
     เขาตั้งท่าเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับมันด้วยความรัดกุม
ที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้ไม่สามารถมีสิ่งใดที่จะผิดพลาดได้แม้
เพียงเสี้ยวเล็บ!
     สายลมขมุกขมัวพลิ้วผ่านไปเพียงวูบเดียวและยังไม่ทัน
จางหายไปจากสัมผัสทั้งห้า
     เพียงชั่วกะพริบตานั้น เจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดน่ากลัว
ที่สุดที่ทุกคนบนโลกนี้เคยพบพานกระโดดพรวดออกจากกลุ่ม
โขดหินมายืนตรงหน้า!
     ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น มันไม่รีรอสิ่งใดทั้งสิ้น กระชากฝ่าเท้า
วิ่งปรี่พุ่งเข้าใส่เขาทันที!
     แม้จะเตรียมตัวดีแค่ไหน แต่ด้วยความรวดเร็วราวพายุ
ขนาดนั้น เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทัน ฝ่าเท้าลุ่นๆ ของมัน
พราดแหวกอากาศกระทุ้งเข้าไปเต็มยอดอก!
     สองเท้าของเขาหลุดลอยขึ้นเหนือพื้น ทั้งตัวปลิวไป
ตามแรงกระแทกก่อนร่วงละลิ่วลงกระทบพื้นดังพลั่ก
     มันยืนเปล่งเสียงหัวเราะกึกก้องด้วยความสะใจจนตัวโยน
     ในท่านอนหงาย เขาพรวดพราดดีดตัวลุกขึ้นมานั่งยอง
อย่างคล่องแคล่วปราดเปรียว เพ่งมองมันให้ชัดๆ เมื่อตอนนี้
เจ้าตัวประหลาดเผยโฉมมันออกมาให้เห็นเต็มตา ผิวหนัง
ที่ห่อหุ้มไปทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มไปด้วยเม็ดนูนใสๆ
ตะปุ่มตะป่ำเหมือนเม็ดอีสุกอีใสแต่กลับดูเกรียมด้านหนาเตอะ
เหมือนผิวคางคกแก่ ตาเหลือกถลนสีส้มขุ่นจ้องเขม็งข่มขวัญศัตรู
ลำแขนยาวเก้งก้างไม่มีนิ้วเหมือนหนวดปลาหมึก ส่วนขาและ
อุ้งเท้าที่ยกยันเขาเมื่อไม่ถึง 2 นาทีที่ผ่านมาไม่ต่างอะไรกับ
ขามนุษย์ ผิดไปเพียงแต่ว่านิ้วเท้าของมันมีเพียง 3 นิ้ว
ขนาดใหญ่ผิดปกติ และแต่ละนิ้วเรียวแหลมเหมือนตีนไก่
     เขาค่อยๆ เหยียดกายขึ้นยืนอย่างยากเย็นพร้อมอาการ
เจ็บปวดที่ยังไม่หายไป มันไม่รอแม้สักวินาทีให้เขาได้ตั้งตัว
ปรี่ตัวปลิวเข้ามาใช้แขนทั้ง 2 ข้างที่ไม่ต่างอะไรกับหนวดปลาหมึก
ขนาดมหึมากระหน่ำฟาดไปยังซอกคออย่างถนัดถนี่แล้วเปะปะ
ไล่ลามไปฟาดทั่วลำตัว
     เขาถูกแรงฟาดมหาศาลนั้นกระแทกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา
จนทั้งร่างแทบจะแหลกเหลว เสียงหัวเราะของมันยังดังก้องกังวาน
ตลอดเวลา
     โดยไม่รอให้เขาได้สูดลมหายใจห้วงต่อไป แขนทั้ง 2 ที่ทำหน้าที่
เหมือนหนวดปลาหมึกก็โอบกระหวัดรัดตรึงอย่างแน่นหนา
จากด้านหลังเหมือนงูหลามขนาดใหญ่รวบพันรัดเหยื่อ
     เขาดิ้นสุดแรงเกิดแต่ไม่เป็นผล ฉับพลันนั้นเริ่มรู้สึกว่าแขน
ที่โอบรัดนั้นไม่ใช่เพียงพันธนาการไว้เท่านั้น มันยังสูบกระชากพลัง
ในตัวเขาออกไปเป็นวูบๆ!
     เสียงหัวเราะของเจ้าตัวประหลาดที่โอบหนวดแขนรัดเขา
จากด้านหลังก้องกังวานดังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เรี่ยวแรงของเขา
เริ่มลิ่วลดหดน้อยลงทุกขณะ สติเริ่มพร่าเลือน
     ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที มันคลายวงแขนทั้ง 2 ออกจากการรัดกุม
ปล่อยร่างของยอดมนุษย์ให้ร่วงผล็อยอย่างอิดโรยลงไปกองกับพื้น
     มันแยกเขี้ยวแสยะยิ้ม ชูทั้ง 2 แขนขึ้นสะบัดระริก หัวเราะเสียงดัง
อย่างผู้ชนะ
     ท่ามกลางลมหายใจที่โรยริน เขาครุ่นคิดด้วยสัมปชัญญะสุดท้าย
ว่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่กำลังหมิ่นเหม่ตอนนี้และเอาชนะ
เจ้าปิศาจร้ายนี่ได้ยังไง
     แล้วเขาก็ระลึกได้ในห้วงแห่งความเป็นความตายนั้น
     ยอดมนุษย์ค่อยๆ ลากท่อนแขนอันไร้เรี่ยวแรงของตัวเอง
ที่กะปลกกะเปลี้ยอยู่ข้างลำตัวขึ้นมาบริเวณศีรษะอย่างยากเย็น
ภาวนาอย่าให้ไอ้เจ้าตัวประหลาดเฉลียวใจหรือระแคะระคาย
ในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะสามารถทำได้
     เจ้าคางคกแขนปลาหมึกยังกระทืบเท้าส่ายแขนไปมาในอากาศ
ด้วยความเริงร่า
     เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายวาดแขนและมือขึ้นมากดปุ่มเล็กๆ
ที่ติดตั้งอยู่กลางหน้าผากของหน้ากากหมวกเหล็กที่ปิดคลุมศีรษะ
ระหว่างเสาเล็กๆ คล้ายเสาอากาศ 2 เสาที่ดูเหมือนหนวดมด
บนหัวของหมวกเหล็กมีกระแสไฟสปาร์คแปลบปลาบ ดวงตา
กลมรีรูปไข่บนด้านหน้าหมวกเหล็กเปล่งแสงเขียวสดสว่างโร่!
     ปุ่มที่เขาเพิ่งรวบรวมพลังขึ้นมากดในเฮือกสุดท้ายของชีวิต
คือปุ่มรวบรวมพลังงานจากจิตสำนึกที่ดีงามของสิ่งมีชีวิตรอบตัว
ทั้งจากคน สัตว์ พืช ทุกความคิดที่ดีงามและบริสุทธิ์จะถูก
รวบรวมหล่อหลอมเข้ามาเป็นพลังให้ยอดมนุษย์คนนี้
     เสี้ยววินาทีที่กำลังรวบรวมพลัง สัตว์ประหลาดผิวคางคก
เหลือบแวบมาเห็นเข้า มันปราดลงมาโอบรัดเขาไว้จากด้านหลัง
อีกครั้งในทันที!
     เมื่อรัดแน่นหนา มันกระชากตัวเขาขึ้นมายืน หมายสูบพลัง
ให้หมดร่างอีกครั้ง
     แต่มันช้าไป พลังของยอดมนุษย์กลับคืนมาแล้ว!
     เขางอตัวลงเล็กน้อย เกร็งท่อนแขนอันกำยำ แหวกกระชาก
แขนอันเป็นหนวดของมันออกไปจากการรัดกุมจนมันเซผงะ
เสียการทรงตัว
     ยอดมนุษย์ไม่รอช้า หันขวับกลับไปรัวหมัดกะซวกใส่ไม่ยั้ง
จนมันเริ่มตัวอ่อนโงนเงน
     เขาตัดสินใจใช้ท่าไม้ตายในการเผด็จศึกเจ้าตัวประหลาด
เมื่อมองเห็นหนทางชนะอย่างแจ่มชัด 2 ฝ่ามือในถุงมือหนัง
สีเขียวของยอดมนุษย์เหวี่ยงหวือฟันฉับเข้าไปที่สันคอของมัน
พร้อมกันเต็มข้อดังผลัวะ
     ขณะที่มันโงนเงนมึนงงเจียนจะล้ม เขาตวัดท่อนแขน 2-3 ครั้ง
แล้วปล่อยคลื่นพลังบางอย่างตรงเข้าใส่มัน
     ตูม!
     เสียงระเบิดและประกายไฟกึกก้องสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นควัน
คละคลุ้งครอบคลุมไปทั่วบริเวณ
     ม่านควันเริ่มลอยเลื่อนเคลื่อนจาง ยอดมนุษย์ยืนจังก้า
จ้องมองไปยังภาพตรงหน้า
     เจ้าตัวประหลาดนอนฟุบหน้าหมอบนิ่งสิ้นฤทธิ์!
     เสียงเฮดังลั่น เสียงปรบมือดังกึกก้อง
     เด็กๆ ในงานโห่ร้องกระโดดดีใจวิ่งกรูกันมาหน้าเวที ชื่นชมบูชา
ยอดมนุษย์สุดเท่ที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าพร้อมๆ กับหันไป
เยาะเย้ยสมน้ำหน้าเจ้าตัวประหลาดที่โดนกำราบจนสิ้นท่า
     เจ้าตัวประหลาดค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นเดินมาสมทบกับ
ยอดมนุษย์และคนอื่นๆ บนเวที ยืนรวมกลุ่มเป็นหน้ากระดาน
โค้งคำนับให้ผู้ชมที่อยู่ด้านล่าง เด็กๆ ที่เกาะอยู่หน้าเวทียังกระโดด
ชอบใจ ตะโกนร้องเรียกยอดมนุษย์ไม่ขาดสาย
     ก่อนที่ทั้งหมดบนเวทีจะเดินแยกย้ายกลับไป ยอดมนุษย์ทำท่า
กระแทกหลังหมัดใส่ตัวประหลาดอีกครั้งจนหน้าหงาย
เด็กๆ ด้านหน้าเวทีเฮปรบมือชอบใจพร้อมกัน
     แล้วทั้งยอดมนุษย์และสัตว์ประหลาดก็เดินหายไปหลังเวที
พร้อมกับการเข้ามาแทนที่ของเสียงประกาศแสนอ่อนหวาน
     “การแสดงโชว์ ไอ้มดเอ็กซ์แอลปะทะสัตว์ประหลาดสควิดดิพ็อกซ์
สำหรับวันนี้หมดเวลาแล้ว พบกับพวกเขาได้ใหม่ในวันพรุ่งนี้
รอบแรกเริ่มแสดงเวลา 11.30 น. นะคะ มาเอาใจช่วย
ไอ้มดเอ็กซ์แอลพร้อมกันนะคะเด็กๆ”
     ยังไม่ทันพ้นขอบบันไดหลังเวที ยอดมนุษย์ไอ้มดเอ็กซ์แอล
รีบถอดหมวกเหล็กที่ครอบศีรษะออกด้วยความร้อนรน
     “เชี่ยเอ๊ย! ร้อนฉิบหาย” ชายในชุดยอดมนุษย์บ่นพลางเกาหัว
แกรกๆ หยิบซองบุหรี่บนโต๊ะตัวหนึ่งขึ้นมา เคาะซองกับหลังมือ
ส่งบุหรี่ลอดปากซองออกมา 1 มวน
     “สูบในนี้ไม่ได้นะ ต้องออกไปสูบข้างนอก ในนี้ห้องแอร์” หนึ่งใน
ทีมงานที่นั่งพักอยู่ข้างๆ ร้องเตือนบอกมา
     “แม่งเอ๊ย!” เขาสบถด้วยความหงุดหงิด
     ตัวประหลาดเดินมาหลังเวทีแล้วค่อยๆ ถอดหัวน่าเกลียดน่ากลัว
ที่หล่อขึ้นมาจากยางอันนั้นออก เหงื่อเขาไหลอาบชุ่มโชกยิ่งกว่า
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดยอดมนุษย์เสียอีก
     “วันนี้โอเคนะ เด็กๆ สนุกกันใหญ่” เขาหันไปพูดกับผู้แสดง
เป็นยอดมนุษย์ด้วยรอยยิ้ม
     “เออ ก็ดีแล้ว ถ้าพวกแม่งไม่สนุกเดี๋ยวกูตกงาน” ยอดมนุษย์
ตอบมาห้วนๆ แล้วยิงคำถามแกมเชิญชวนมายังตัวประหลาดต่อ
ทันที
     “หมดโชว์วันนี้ไปไหนป่ะ ไปกินเหล้าตั้งวงป๊อกเด้งที่ห้องไอ้วี
กันดีกว่า”
     “อืม…” ชายหนุ่มในชุดตัวประหลาดหยุดคิด
     “ไม่ดีกว่าว่ะ โทษที…คืนนี้แม่กูอยากไปวัด กูว่าจะพาแกไป”
     …