Lesson 39

สิงหาคม 7, 2011

outside teaching : บทเรียนนอกตำรา / โดย…โรงน้ำชา (15/7/2554)
Lesson 39 : เรื่องเหล้า

          “คนเสเพล ปีศาจสุรา มิเห็นที่ใดไม่ดี นั่นยังประเสริฐกว่า
วิญญูชนจอมปลอม สวมหน้ากากออกหลอกลวงมากมายนัก หรือมิใช่?”
     “สุราไม่อาจคลี่คลายความคับแค้นของผู้ใดได้ แต่สามารถดลบันดาล
ให้ท่านหลอกตัวเองได้”
     “วาจาตอนเมา ปกติมักเป็นวาจาจริงใจ”
     “ข้าพเจ้าเองมักรู้สึกประหลาดสงสัย ไฉนผู้คนในโลกจึงพอใจ
ดื่มสุรากันอยู่มากมาย ความจริงสุรายังดื่มยากกว่ายาพิษเสียอีก”
     “ผู้ดื่มสุราเมามาย มักเข้าใจว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุผลที่สุดในโลก
ไม่ว่ากระทำเรื่องราวใดล้วนถูกต้อง ที่ผิดพลาดต้องเป็นผู้อื่น”
     “หลังร่ำสุราเปิดเผยความจริง ผู้ที่ดื่มจนเมามายมักยากที่จะรักษา
ความลับไว้ได้”
     “ข้าพเจ้ามิได้ชื่นชอบในรสชาติของสุรา หากพิสมัยในบรรยากาศ
แห่งการร่ำสุรา”
     …
     ทั้งหมดเป็นบางส่วนของสำนวนพร่ำพรรณนารสเรื่องที่
เกี่ยวเนื่องกับสุราของ “โกวเล้ง” ปรมาจารย์นวนิยายกำลังภายใน
     …
     “เรากินเหล้า…อย่าให้เหล้ากินเรา เราต้องกำกับเหล้า…
อย่าให้เหล้ากำกับเรา” อันนี้ “พ่อ” ของผมกล่าวสั่งสอนไว้เอง
     และสอนไว้แค่ “ครั้งเดียว”
     พ่อผมเป็นนักดื่มตัวกลั่น ดื่มดะได้ทุกอย่างตั้งแต่เหล้าไวน์ฝรั่งลุคหรู
ยันยาดองเหล้าป่าเหล้าเถื่อน! แถมยังดื่มได้บ่อย ดื่มได้ทุกมื้อ ดื่มได้ทุกวัน!
     แต่พ่อไม่เคยเมาให้เห็น ไม่เคยเอะอะโวยวาย ไม่เคยมีเรื่องเดือดร้อน
เพราะการดื่มเหล้า เห็นเพียงมิตร ยินเพียงสหายที่เฮฮาเริงใจในวงเหล้า
ร่วมกับพ่อ
     นั่นคือเหตุผลที่ผมได้ยินคำสอนจากปากแค่ “ครั้งเดียว” เพราะพ่อ
เน้นย้ำด้วยการกระทำอยู่เป็นนิจ


     วันนี้ ผมก็ดื่มได้แทบทุกอย่างและดื่มได้แทบทุกวัน มีบ้างบางครั้ง
ที่มึนนิดเมาหน่อย แต่ไม่เคยปล่อยให้ “เหล้ากินเรา” จนเสียคนเสียงาน
     “ทำไมพี่ต้องกินเหล้าทุกวันอ่ะ” ผมเคยโดนหลายคนถามอย่างนี้
“พี่ติดเหล้าเหรอ”
     “เปล่า” ผมตอบคนถามหลังจากใคร่ครวญคิดแล้วว่า
เพราะอะไรที่ทำให้รู้สึกอยากดื่ม
     “ไม่ได้ติดหรอก ไม่กินก็ไม่เป็นไร ไม่ได้อยากจนทุรนทุราย แต่แค่
รู้สึกว่าช่วงเวลาที่ได้นั่งกินเหล้ามันเป็นช่วงเวลาที่เราได้พักผ่อนหลังจาก
เหนื่อยเครียดกับงานมาทั้งวัน ได้มานั่งชิลล์ ค่อยๆ ละเลียดอาหาร
กับเครื่องดื่มเย็นๆ พูดคุยเฮฮา หนุกๆ ขำๆ กัน มันได้ผ่อนคลายอารมณ์น่ะ”
     ฟังดูคล้ายเหตุผล (ที่หลายคนมองว่าเป็นแค่ข้ออ้างหรือคำแก้ตัว) ของ “โกวเล้ง”
     “ข้าพเจ้ามิได้ชื่นชอบในรสชาติของสุรา หากพิสมัยในบรรยากาศแห่งการร่ำสุรา”


     นอกจากการได้ร่ำบรรยากาศแห่งการผ่อนคลายสบายใจ นั่งนึกไปตรองมา
แล้วผมยังพบว่า “สุรา” ที่ใครๆ ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเสื่อมทรามต่อสุขภาพยังมี
“ประโยชน์” บางอย่างซ่อนซุกอยู่
     นอกจากที่สังเกตได้ว่าปัสสาวะที่ถูกขับพุ่งออกมาหลังจากได้ร่ำสุรา
จะมี “กลิ่น” หอมหวานกว่าปัสสาวะในช่วงเวลาปกติอย่างน่าพิศวง
     เมื่อรินยกกระดกกลืนไปถึงระดับหนึ่ง พลานุภาพแห่งเหล้าจะทำให้เรา “กล้า”
หรือ “หน้าด้าน” กว่าปกติ ยางอายราวถูกน้ำจัณฑ์ชำระชะลอกไถลถลอก
ออกไปจากใบหน้าให้เราเฮฮาอย่างบ้าบิ่น เป็นที่มาของความสนุกสนานในวงเหล้า
     ทำให้เห็นน้ำใจเพื่อน เข้าใจเพื่อน รู้ใจเพื่อน เปิดใจคุยกับเพื่อน หัวเราะกับเพื่อน
สนิทกับเพื่อน มีวีรกรรมห่ามๆ เถื่อนๆ ถ่อยๆ เพี้ยนๆ ไว้คุยเฮฮากับเพื่อน
ในวันข้างหน้า
     บางคนได้แฟนจากเหล้า เพราะดื่มแล้วกล้าสารภาพรัก กล้าพรั่งพรูสิ่งที่
อัดอั้นป่วนปั่นอยู่ในใจ กล้าเสี่ยงที่จะผิดหวัง
     บางครั้งเราได้เพื่อนใหม่ มิตรภาพใหม่ จากเหล้า
     บางคนได้นั่งพินิจคิดตรองมองเห็นความหมายของการใช้ชีวิต ได้สังเกต
เห็นความงดงามเล็กๆ ของโลกเละๆ รอบตัวก็จากห้วงเวลาร่ำรินกินเหล้า


     แต่สิ่งแย่ๆ เรื่องเลวร้ายที่เกิดจากเหล้าก็มีไม่น้อยอย่างที่เราถูกเล่ากรอกหู
กันอยู่ทุกวัน
     ทุกอย่างเกี่ยวกับเหล้าสอนว่า…ทุกอย่างล้วนมีสองด้าน ในบางอย่าง
ที่ดูเหมือนจะมีแต่เรื่องไม่ดี มีแต่ความเลวทรามระยำชั่ว แท้จริงหากเพ่งพลิกอีกด้าน
อาจมีคุณงามความดีแม้เพียงเล็กน้อยให้เราแลเห็น
     อยู่ที่จะเลือกมองด้านไหน และชั่งน้ำหนักในการเลือกตอบสนองอย่างไร
     เพราะต้องไม่ลืมว่า…
     ปีศาจสุราที่เข้าใจใน “ด้านดี” ของสุราอย่างถ่องแท้เยี่ยง “โกวเล้ง”
     ยังต้องม้วยมรณาปราชัยให้แก่ “พิษ” แห่งสุรา!