Text-Symbol 22

ประโยคสัญลักษณ์ (Text-Symbol) โดย โรงน้ำชา (15-7-2556)
ประโยคสัญลักษณ์ที่ 22 – เย็นวันหนึ่ง

     ผมเกลียดดอกกุหลาบ…โดยเฉพาะสีแดง!
     ผมเกลียดดอกมะลิ!
     ผมเกลียดดอกดาวเรือง!
     ผมเกลียดดอกรัก!
     ผมเกลียดอีกหลายดอกเลยด้วย!
     ผมเกลียดเพราะดอกไม้พวกนี้มันทำให้ผมไร้คุณค่า!
ไร้ศักดิ์ศรี! ไม่มีตัวตน!
     ใครๆ ก็หลงใหลได้ปลื้มดอกกุหลาบ ยิ่งในวันวาเลนไทน์
วันแห่งความรัก ดอกกุหลาบยิ่งมีคุณค่ามีราคายิ่งกว่าอาหาร
แต่ละมื้อของคนจนๆ เสียอีก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมดอกไม้เล็กๆ
ดอกเดิม แถมยังหาซื้อได้ง่ายกว่าเดิม มีจำนวนมากกว่าเดิม
ถึงสามารถโก่งตัวเองถีบราคาขึ้นไปเปี่ยมล้นคุณค่าได้เว่อร์
ขนาดนั้น
     ดอกมะลิก็เหมือนกัน หอมมาเชียว ยิ่งในวันแม่ด้วยแล้ว
ยิ่งเห่อมันกันใหญ่ ถึงจะไม่เท่าเจ้าดอกกุหลาบในวัน
วาเลนไทน์ก็เถอะ
     เออ! บางทีมันก็ทำให้ผมรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมนี้
มันคงเห็นความสำคัญของคนรักมากกว่าแม่แฮะ
ไม่งั้นดอกมะลิก็ต้องป็อปปูลาร์กว่า แล้วนำพาไปสู่ราคา
ที่แพงระยับกว่าดอกกุหลาบสิ
     เฮ้อ! คนหนอคน!
     ดอกดาวเรืองนี่ใครๆ ยิ่งเทิดทูนบูชาเข้าไปใหญ่
เห็นชอบเอาไปร้อยเป็นพวงถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่บันดาลความศรัทธาความสบายใจ พวงนึงก็ดอกใหญ่ๆ
หลายดอก ใครๆ ก็ชอบ ใครๆ ก็กราบ ดูขลังพิลึก
     บางทีผมก็เห็นมีหลายคนเอาดอกดาวเรืองเหลืองอ๋อย
ไปร้อยเป็นพวงใหญ่ๆ ห้อยคอพวกผู้ใหญ่ใส่สูทเนี้ยบกริบ
ที่ยืนตากแดดร้อนๆ แต่ยังคงยิ้มเผล่ได้ราวอากาศสดใส
ไร้เปลวไอแดด อยู่หลังรถกระบะบ้าง หลังรถบรรทุกบ้าง
พูดจาเสียงดังฉะฉานมั่นใจ บางทีบางคนก็ลงมาเดิน
ฉีกยิ้มหวานยกมือปลกๆ ไหว้ชาวบ้านตามซอยตามตลาด
ที่แต่งตัวมอซอๆ ราวกับคนละชนชั้นวรรณะกับคนที่ห้อย
พวงมาลัยดาวเรือง
     ชาวบ้านก็ยิ้มและยกมือไหว้ตอบ! บ้างก็เข้าไปจับมือจับไม้
กอด หอม ด้วยความรักและชื่นชมประหนึ่งลูกหลาน!
     อืม…มีบางคนเอาดอกกุหลาบไปยื่นให้อีกต่างหาก
เกลียดดอกกุหลาบจริงๆ!
     นี่ต้องเป็นเพราะคุณค่าและพลานุภาพของดอกดาวเรือง
พวงใหญ่ที่ห้อยคอคนพวกนั้นอยู่เป็นแน่แท้ ผมจึงรู้สึก
เกลียดจริงๆ ที่ใครก็รักชอบดอกดาวเรืองสีเหลืองดอกใหญ่
ที่ดูดีมีคุณค่าไม่ว่าจะห้อยประดับอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือคอ
ของคนใส่สูทก็ตาม
     ไอ้เจ้าดอกรักก็เหมือนกัน ดอกเล็กกระจิ๋วหลิว แต่ใครๆ
ก็เห็นว่ามีคุณค่าจนชอบเอาไปร้อยเป็นพวงมาลัยกราบไหว้
สิ่งที่เค้าบูชา
     ยิ่งคิดยิ่งเซ็ง ยิ่งมโนนึกยิ่งนอยด์ยิ่งน้อยใจ!
     ผมผิดตรงไหน…
     ที่เกิดมาเป็นดอกหน้าวัว!
     …
     แค่ชื่อ “ดอกหน้าวัว” แค่นั้นก็เพียงพอให้ผมเป็นตัวแทน
แห่งความน่าเกลียดน่าเดียดฉันท์สำหรับใครต่อใครได้แล้ว
     “อีดอกหน้าวัว!” ผมเคยได้ยินเด็กผู้หญิงในโรงเรียนนี้
เอาชื่อและตัวตนของผมไปแซวเพื่อนบ้าง ด่าเพื่อนบ้าง
อย่างสนุกสนาน
     “น้องครับน้อง” กลุ่มเด็กนักเรียนชาย 3-4 คน
ที่นั่งอยู่ส่งเสียงเรียกเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดิน
ผ่านทางที่พวกมันนั่งอยู่หลังเลิกเรียน
     “หน้างามหยาดเยิ้มยังกะดอกไม้แรกแย้มเลยอ่ะ”
     เด็กสาวยิ้มเขินขวยในวาจาเกี้ยวอวยของเหล่าชายหนุ่ม
     “ดอกหน้าวัวนะ ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วพวกมันก็ฮาครืนกัน
ทั้งกลุ่ม เด็กสาวรีบเดินงุดๆ หน้าบูดหงุดหงิดออกจาก
โรงเรียน
     เธอคงเกลียดผมเข้าแล้ว
     เพราะผมคือตัวแทนแห่งความอัปลักษณ์ ความไม่สง่างาม
ใครโดนขนานนามว่า “ดอกหน้าวัว” เป็นต้องเสียความมั่นใจ
และรู้สึกไร้คุณค่าขึ้นมาทันที
     เหมือนที่ไอ้ “ดอกหน้าวัว” อย่างผมกำลังรู้สึก!
     และแน่นอน
     วันวาเลนไทน์มะรืนนี้
     คุณค่าของไอ้ดอกหน้าวัวดอกนี้ต้องโดนรัศมีของ
ดอกกุหลาบนับร้อยนับพันเหยียบย่ำจนจมดินแน่ๆ!
     ผมว่าผมก้มหน้าไว้ดีกว่า จะได้ไม่มีใครเห็นว่าผม
ห่อเหี่ยวขนาดไหน
     …
     …
     เย็นวันนี้ เป็นเย็นวันวาเลนไทน์…
     เด็กนักเรียนชายหญิงเดินผ่านดอกหน้าวัวตัวลีบหน้าเหี่ยว
อย่างผมพร้อมหอบ “กุหลาบแดงเพื่อเธอ” กลับบ้าน
     บ้างถือไม่กี่ดอก บ้างหอบออกไปเป็นช่อ ผมดูผ่านๆ
กะประเมินด้วยสายตา
     ผมว่าทั้งโรงเรียนรวมกันมันมากกว่าเก้าพันเก้าร้อย
เก้าสิบเก้าดอกแน่ๆ!
     ยิ่งเด็กหญิงสาวสวยดาวเด่นประจำโรงเรียนที่เพิ่งเข้ามา
เรียนที่นี่ตอนม.4 คนนั้นที่กำลังเดินมา
     เธอน่าจะโอบกอดกุหลาบแดงอยู่ในอ้อมแขนไม่ต่ำกว่า
ร้อยดอก!
     เด็กหญิงหน้าสวยค่อยๆ เยื้องย่างผ่านมาพร้อมกุหลาบ
ช่อใหญ่ที่ผมว่าคงได้รับมาจากชายหนุ่มในโรงเรียนนี้หลายคน
     เธอเหลือบมาเห็นผมแล้วคลายอ้อมแขน กุหลาบแดง
ทั้งช่อทิ้งตัวร่วงลงกระแทกพื้นคอนกรีต
     รอยยิ้มหวานๆ ซ่านระบายใบหน้าใสๆ
     “ดอกหน้าวัว!” เธอโพล่งออกมา
     “มีดอกหน้าวัวอยู่ตรงนี้ด้วย!”
     แล้วไง? แล้วทำไม? จะเยาะเย้ยดูแคลนอะไรผมอีก?
     “สวยจัง…” เธอพูดพร้อมยิ้มละไม
     ผมแทบไม่เชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยิน!
     “แต่เหี่ยวแล้วอ่ะ น่าสงสารจัง เดี๋ยวไปเอาน้ำมารดให้นะ”
เธอพูดกับผมจบแล้ววิ่งออกไปด้วยความร่าเริง
     ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงหันมาเห็นคุณค่าของ “ดอกหน้าวัว”
อย่างผม อาจเป็นเพราะคุณพ่อเธอใช้ดอกหน้าวัวจีบคุณแม่
ของเธอในสมัยหนุ่มสาว อาจเป็นดอกไม้ชนิดแรกที่คุณพ่อ
คุณแม่สอนให้เธอรู้จัก อาจเป็นดอกไม้ที่คุณย่าซึ่งเลี้ยงดูเธอ
มาตั้งแต่แบเบาะโปรดปราน แต่จะเพราะอะไรก็ช่าง วินาทีนี้
ผมตื้นตันเป็นที่สุด
     แม้จะกับคนเพียงคนเดียว
     แต่ดอกหน้าวัวอย่างผมมีคุณค่าและมีความหมายมากกว่า
ดอกกุหลาบนับร้อยที่นอนตายเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นคอนกรีต
ตรงหน้า
     ในวันวาเลนไทน์!

1 Responses to Text-Symbol 22

  1. ironkong พูดว่า:

    ผมชอบกุหลาบนะ แต่ต้องเป็นกุหลาบแห้ง กุหลาบสดนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ

ใส่ความเห็น